ชื่อโครงการวิจัย นโยบายการรวมประเทศของจีนและไต้หวัน
ผู้วิจัย
นายวิเชียร อินทะสี
ปีที่ได้รับทุน
2545
แหล่งทุน
สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
บทคัดย่อ
การศึกษานโยบายการรวมประเทศของจีนและไต้หวัน
มีวัตถุประสงค์ที่จะศึกษานโยบายและแนวทางการรวมประเทศ
ตามที่ผู้นำจีนและไต้หวันเสนอ
ปัจจัยที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่อาจบรรลุฉันทามติ
เพื่อดำเนินการรวมประเทศได้
และรวมถึงบทบาทของประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา
ในประเด็นปัญหาความขัดแย้งระหว่างจีนกับไต้หวันด้วย
ผลการศึกษาทำให้ทราบว่าในช่วงแรกที่จีนคอมมิวนิสต์สามารถสถาปนารัฐบาลขึ้นที่ผืนแผ่นดินใหญ่ได้
และจีนคณะชาติต้องอพยพมาตั้งมั่นที่เกาะไต้หวันนั้น
แต่ละฝ่ายต่างก็อ้างว่าฝ่ายตนเป็นรัฐบาลที่ชอบธรรมของชาวจีนแต่เพียงรัฐบาลเดียว
โดยทางจีนก็มุ่งที่จะใช้กำลังทางทหารเข้าผนวกดินแดนไต้หวัน
ส่วนไต้หวันก็หวังที่จะกลับเข้าไปตั้งรัฐบาลในผืนแผ่นดินใหญ่แทนฝ่ายคอมมิวนิสต์
แต่ทั้งสองฝ่ายก็ไม่สามารถดำเนินการตามเป้าหมายที่วางไว้ได้
โดยสหรัฐอเมริกาได้เข้ามาให้การปกป้องไต้หวันตามนโยบายสกัดกั้นการขยายอิทธิพลของลัทธิคอมมิวนิสต์
ส่วนไต้หวันนั้นก็มีขีดความสามารถทางการทหารด้อยกว่า
ฉะนั้นทั้งสองฝ่ายจึงได้ใช้วิธีการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการมาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา
โดยทางจีนมีเงื่อนไขให้ไต้หวันยอมรับในหลักการจีนเดียว
เปิดโอกาสให้ไต้หวันคงระบบเศรษฐกิจและสังคมได้
ภายหลังจากที่มีการรวมตัวเข้าด้วยกันแล้ว
แต่ทางไต้หวันถือว่าตนมีฐานะเป็นหน่วยทางการเมืองที่มีฐานะทัดเทียมกันกับจีน
โดยเฉพาะผู้นำไต้หวันที่ผ่านการเลือกตั้งมาจากประชาชน
และยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการแสดงนัยด้วยว่า
จีนและไต้หวันต่างก็เป็นประเทศหรือรัฐด้วยกัน
ซึ่งการแสดงท่าทีในลักษณะเช่นนี้
จีนถือว่าไต้หวันกำลังประกาศตัวเป็นเอกราช
ซึ่งถือว่าขัดกับนโยบายจีนเดียว
ที่ถือว่าไต้หวันเป็นเพียงจังหวัดหนึ่งของตน
จีนจึงขู่ที่จะใช้วิธีการทางทหารเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา
แต่จีนก็ไม่อาจที่จะดำเนินการเช่นนั้นได้
เพราะสหรัฐอเมริกามีข้อผูกมัดที่จะให้ความช่วยเหลือต่อไต้หวัน
ถ้าหากจะมีการแก้ไขปัญหาไต้หวัน นอกเหนือวิธีการอันสันติ
ปัญหาระหว่างจีนกับไต้หวันจะได้รับการแก้ไขในช่วงระยะเวลาใดนั้น
คงต้องขึ้นอยู่กับทั้งสองฝ่ายจะปรับท่าทีเข้าหากันอย่างไร
และสหรัฐอเมริกายังจะมองไต้หวันเป็นจุดยุทธศาสตร์ของตนอีกยาวนานขนาดไหน
|