ปีงบประมาณ
2543
ชื่อโครงการวิจัย
ผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจปัจจุบันที่มีต่อนักธุรกิจคนไทยเชื้อสายจีน
ชื่อผู้ทำวิจัย
อาจารย์ศุภลักษณ์ พรกุลวัฒน์ รศ.ยุพา
คลังสุวรรณ รศ.ไว จามรมาน
ปีที่เสร็จ
2544
บทคัดย่อภาษาไทย
โครงการวิจัยเรื่อง ผลกระทบของวิกฤติเศรษฐกิจปัจจุบันที่มีต่อนักธุรกิจคนไทยเชื้อสายจีน
นี้ โดยแบ่งการศึกษาออกเป็น 3
กรณี คือ ธุรกิจการเงินการธนาคาร
ทำการศึกษาโดยอาจารย์ศุภลักษณ์ พรกุลวัฒน์ ธุรกิจร่วมทุน
ศึกษาโดย รศ.ไว จามรมาน และ
ธุรกิจอุตสาหกรรมอาหาร
ศึกษาโดย รศ.ยุพา คลังสุวรรณ
เนื่องจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นนับแต่ปี พ.ศ.2540
นั้น
ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของคนไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก
แต่ในการวิจัยครั้งนี้จะเลือกศึกษาเพียง 3
ธุรกิจใหญ่ๆ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงเท่านั้น
งานวิจัยในส่วนของกรณีศึกษาธุรกิจการเงินการธนาคารนี้
มีจุดมุ่งหมายที่จะนำเสนอภาพผลกระทบของวิกฤตการณ์ดังกล่าวต่อการดำเนินบทบาททางด้านธุรกิจการเงินการธนาคารของคนไทยเชื้อสายจีน
ผู้ซึ่งมีส่วนอย่างยิ่งต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย
การที่จะเข้าใจการดำเนินธุรกิจแบบนี้ได้จำเป็นจะต้องให้ความสนใจต่อวัฒนธรรมจีนด้วย
เนื่องจากนักธุรกิจกลุ่มนี้ได้มีการนำเอาวัฒนธรรมจีนมาใช้เป็นแนวทางในการประกอบธุรกิจ
กล่าวคือ ระบบครอบครัว
นั่นเอง
อันถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของการดำเนินธุรกิจที่มีความแตกต่างจากการดำเนินธุรกิจทั่วไป
การศึกษาครั้งนี้ได้จำกัดขอบเขตในธุรกิจของตระกูลหวั่งหลีเท่านั้น
การศึกษาพบว่า ธุรกิจของตระกูลหวั่งหลีได้มีการแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น
2 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนที่เป็นของตระกูลหวั่งหลีโดยรวม
และส่วนที่เป็นของพูลผล
ซึ่งต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะในการดำเนินธุรกิจของตน โดยในส่วนของตระกูลหวั่งหลีโดยรวมนั้นค่อนข้างจะเห็นได้อย่าง
ชัดเจนว่า ได้มีการจำลอง อุดมการณ์ครอบครัว
แบบจีนเข้าอยู่ในการดำเนินธุรกิจของตนพิจารณาได้จากลักษณะของการสืบทอดอำนาจผ่านทางสายผู้ชายตามลำดับอาวุโส
และมีการนำเอาเครือญาติทางฝ่ายชายเข้ามาร่วมอยู่ในการดำเนินธุรกิจของตระกูล
ซึ่งแตกต่างจากกรณีธุรกิจของตระกูลหวั่งหลีสายพูนผลที่ได้มีการสืบทอดอำนาจผ่านทางสายผู้หญิงของตระกูล
และเครือญาติของฝ่ายหญิงเข้ามามีบทบาทในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มดังกล่าว
หลังจากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในประเทศเมื่อปี
พ.ศ.2540
ธุรกิจการเงินการธนาคารของตระกูลหวั่งหลีซึ่งเป็นฐานทางการเงินให้กับธุรกิจต่างๆ
ของตระกูล ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ดังกล่าวโดยตรง
ทั้งบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์พูลพิพัฒน์จำกัด(มหาชน)
และธนาคารนครธนจำกัด(มหาชน)
ทำให้ทางหวั่งหลีจำเป็นจะต้องมีการปรับตัวเพื่อให้สามารถธำรงเอกลักษณ์ธุรกิจแบบจีนของตนไว้ได้
ด้วยการหันกลับมาให้ความสนใจกับธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอันเป็นธุรกิจดั้งเดิมของตระกูลให้มากขึ้น
หลังจากที่ได้พยายามหาทางพยุงธุรกิจการเงินการธนาคารที่ไม่มั่นคงดังกล่าวให้คงอยู่ต่อไปได้ด้วยการเพิ่มทุนและปรับเปลี่ยนลักษณะการดำเนินธุรกิจด้วยการผู้ร่วมทุนทั้งจากภายในและภายนอกประเทศแล้ว
ท่ามกลางกระแสการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม
และการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลาที่ผ่านมา ธุรกิจของตระกูลหวั่งหลีก็ยังคงยืนหยัดเอกลักษณ์เฉพาะในการดำเนินธุรกิจแบบจีนภายใต้รูปแบบ
อุดมการณ์ครอบครัว
ดังที่ปรากฎให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน
|