ปีงบประมาณ 2535
ชื่อโครงการวิจัย
ประเพณีที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของชาวเกาหลี
ผู้ทำวิจัย
ผศ.ดร.นภดล ชาติประเสริฐ
จำนวนหน้า
81 หน้า
บทคัดย่อภาษาไทย
เกาหลีเป็นชาติที่มีพัฒนาการทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน
แม้ว่ากระแสของอารยธรรมภายนอกจะได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่ออารยธรรมเกาหลี
แต่เกาหลีก็ได้มีการปรับปรุงจนมีรูปแบบอารยธรรมที่มีลักษณะเป็นของตนเอง
ซึ่งรากฐานต่างๆ เหล่านี้ก่อให้เกิดประเพณีต่างๆ
มากมายซึ่งมีผลต่อวิถีชีวิตของชาวเกาหลี ในการนี้ มีปัจจัยต่างๆ
หลายประการซึ่งมีผลต่อประเพณีต่างๆ ของเกาหลี
ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ถือได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญประการหนึ่ง
ซึ่งมีผลต่อการเกิดประเพณีต่างๆ ของเกาหลี ฤดูกาลต่างๆ ทั้ง 4
ฤดูที่เปลี่ยนแปลงไปและแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งกับวิถีชีวิตของชาวเกาหลี
รวมทั้งเป็นตัวแปรที่ก่อให้เกิดประเพณีต่างๆ มากมาย นอกจากนั้น
การที่เกาหลีมีที่ตั้งที่ค่อนข้างใกล้กับจีน ซึ่งเป็นอู่อารยธรรมสำคัญของโลกมีผลทำให้กระแสวัฒนธรรมของจีนหลั่งไหลเข้าสู่เกาหลีอย่างต่อเนื่อง
และเมื่อพิจารณาในแง่ยุทธศาสตร์แล้ว
ก็จะเห็นได้ว่าเกาหลีมีที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ
ซึ่งมีผลทำให้เกาหลีถูกรุกรานจากเพื่อนบ้านซึ่งมีศักยภาพทางอำนาจแข็งแกร่งกว่าอยู่เสมอ
ดังนั้น การได้รับอารยธรรมจีนจึงมีทั้งการรับเข้ามาโดยความสมัครใจและการรับเข้ามาอันเป็นผลจากการถูกรุกราน
นอกจากนั้น การถูกรุกรานต่างๆ
ดังกล่าวก็มีผลทำให้ชาวเกาหลีรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่นในการที่จะรักษาเอกราชของตนไว้
ซึ่งสะท้อนออกมาในประเพณีต่างๆ ที่เกี่ยวกับวีรบุรุษของชาติ
ปัจจัยทางเศรษฐกิจก็มีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากต่อการเกิดประเพณีต่างๆ
ในเกาหลี
การที่ชาวเกาหลีในสมัยโบราณดำรงชีวิตที่เกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งกับการเกษตรกรรมทำให้เกิดประเพณีต่างๆ
มากมายที่เกี่ยวไร่นารวมทั้งการประมง ในการนี้
การที่เกาหลีโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เป็นเกาหลีใต้ได้มีการพัฒนาเข้าสู่สังคมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ทศวรรษที่
1960 เป็นต้นมา
พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของชาวเกาหลีใต้จากสังคมชนบทมาสู่สังคมเมืองมากขึ้นตามลำดับมีผลทำให้ประเพณีหลายอย่างของเกาหลี
ซึ่งมีรากฐานที่ผูกพันกับวิถีชีวิตแบบชนบทลดความสำคัญลง
ในขณะที่ประเพณีหลายประการที่ยังได้รับการดำรงรักษาไว้ในสังคมของเกาหลีใต้ก็ได้รับการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตในสังคมเมืองมากยิ่งขึ้น
ปัจจัยทางการเมืองก็นับได้ว่ามีบทบาทสำคัญไม่น้อยกว่าปัจจัยอื่นๆ
การที่เกาหลีมีการ
ปกครองในลักษณะอำนาจนิยมอย่างค่อนข้างเข้มงวดมาอย่างยาวนาน
ทำให้ประชาชนซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคมอยู่ในสภาพที่ถูกกดดันจากผู้มีอำนาจทางการเมือง
ซึ่งในหลายครั้งผู้ปกครองก็ปกครองประเทศอย่างไม่เป็นธรรม
ความคับข้องใจเหล่านี้ได้สะท้อนออกมาในประเพณีต่างๆ
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเสียดสีและประชดประชันผู้มีอำนาจทางการเมือง
ปัจจัยทางความเชื่อและศาสนานั้นนับได้ว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อวิถีชีวิตของชาวเกาหลี
ซึ่งประเพณีต่างๆ
ส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่มีพัฒนาการมาในบริบทของความเชื่อทางศาสนาทั้งสิ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาสนาพุทธและลัทธิขงจื๊อนั้นมีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อประเพณีต่างๆ
ของชาวเกาหลี
ดังจะเห็นได้จากประเพณีที่มีความสัมพันธ์กับวันสำคัญทางศาสนา
นอกจากนั้น
ศาสนาพื้นเมืองดั้งเดิมของชาวเกาหลีก็มีส่วนสำคัญอย่างมากต่อรากฐานของประเพณีต่างๆ
ปัจจัยทางสังคมนั้น มีบทบาทเป็นอย่างมากต่อประเพณีต่างๆ ของชาวเกาหลี
การที่เกาหลีเป็นสังคมที่เน้นการให้ความสำคัญแก่ครอบครัวนั้น
ทำให้เกิดประเพณีต่างๆ มากมายที่เกี่ยวกับการจัดระเบียบในครอบครัว
ซึ่งรวมถึงความกตัญญู และการเคารพเชื่อฟังผู้อาวุโส
นอกจากนั้นการแบ่งแยกชนชั้นอย่างชัดเจนในสังคมเกาหลีในอดีต
ก็ได้สะท้อนออกมาในประเพณีและเทศกาลต่างๆ
ซึ่งแสดงให้เห็นปัญหาอุปสรรคและความไม่เป็นธรรมต่างๆ
อันเกิดขึ้นมาจากการแบ่งแยกชนชั้นดังกล่าว
ในการนี้
ประเพณีต่างๆ ของชาวเกาหลีนั้น แบ่งออกได้เป็นสองลักษณะได้แก่
ประเพณีที่เกี่ยวข้องกับช่วงต่างๆ
ในชีวิตของแต่ละคนและประเพณีซึ่งมีเป็นประจำในแต่ละช่วงเวลาของปีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงชีวิตในทัศนะของชาวเกาหลีนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกี่ยวพันอย่างลึกซึ้งกับสถานภาพของคนๆ
นั้น รวมทั้งความเกี่ยวพันทางสังคมระหว่างคนๆ นั้นกับผู้อื่น
การเปลี่ยนแปลงซึ่งชาวเกาหลีให้ความสำคัญมาตั้งแต่อดีตได้แก่
การเปลี่ยนวัยจากเด็กเป็นผู้ใหญ่ การแต่งงานและการเสียชีวิต
ซึ่งชาวเกาหลีเรียกการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้รวมกันว่า Kwanhon
sangje
พิธีกรรมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงชีวิตดังกล่าวนี้
ตามความเชื่อของลัทธิขงจื๊อแล้วถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรับผิดชอบของ
แต่ละบุคคลต่อสังคมซึ่งเปลี่ยนแปลงไป
การแต่งงานนั้นถือเสมือนกับการร่วมสร้างรากฐานให้กับสังคมในฐานะที่ครอบครัวเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคม
งานศพนั้นถือเป็นการแสดงความเคารพและความผูกพันของผู้ที่อยู่เบื้องหลัง
ซึ่งมีต่อผู้เสียชีวิตรวมทั้งเป็นการให้กำลังใจเพื่อให้ผู้ที่อยู่
เบื้องหลังสามารถผ่านวิกฤตการณ์ของชีวิตในแต่ละครั้งไปได้
ส่วนพิธีการเซ่นไหว้บรรพบุรุษนั้น นอกจากจะเป็นการแสดงความกตัญญูแล้ว
ยังเป็นโอกาสสร้างความสมานฉันท์และความใกล้ชิดในหมู่ญาติพี่น้องอีกด้วย
นอกจากประเพณีที่เกี่ยวกับวงจรชีวิตแล้ว ยังมีประเพณีต่างๆ
อีกเป็นจำนวนมากซึ่งยังคงถือปฏิบัติกันอยู่ในแต่ละช่วงเวลาของปี
ซึ่งบางประเพณีก็เป็นประเพณีในระดับชาติ
แต่บางประเพณีก็เป็นประเพณีในระดับท้องถิ่นเท่านั้น ประเพณีต่างๆ
เหล่านี้มักถือเวลาตามการคำนวนแบบจันทรคติเป็นหลัก
ซึ่งส่วนมากแล้วมักจะเป็นประเพณีที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนาและประเพณีที่เกี่ยวข้องกับฤดูกาลต่างๆ
|