บทคัดย่อโครงการวิจัยของสถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา
(งบประมาณแผ่นดิน)
ปีงบประมาณ 2534
ชื่อโครงการวิจัย
บทบาทของญี่ปุ่นต่อโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก
ผู้ทำวิจัย
วิเชียร อินทะสี
จำนวนหน้า
90 หน้า
บทคัดย่อภาษาไทย
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทบาทของภาครัฐบาลญี่ปุ่น
ในด้านการให้ความช่วยเหลือต่อโครงการพัฒนาชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก
และศึกษาถึงบทบาทการลงทุนของภาคเอกชนญี่ปุ่น
ในโครงการพัฒนาดังกล่าวด้วย
การพัฒนาชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก
ซึ่งครอบคลุมพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง
ถือเป็นโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ ที่เกิดจากการบูรณาการเป้าหมายระหว่างความพยายามที่จะกระจายความเจริญออกสู่ภูมิภาค
เพื่อคลี่คลายสภาพความแออัดของกรุงเทพฯ และบริเวณใกล้เคียง
กับความพยายามที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมหลักของประเทศ
โดยใช้ก๊าซธรรมชาติที่ค้นพบเป็นตัวจุดประกาย
และยังคาดหวังว่าผลการพัฒนานี้จะบังเกิดผลดีต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหลังด้วย
ในระยะเริ่มต้นได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายของการพัฒนาไว้ 2
บริเวณคือ บริเวณแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
กำหนดให้เป็นแหล่งที่ตั้งท่าเรือน้ำลึก อุตสาหกรรมขนาดกลาง และขนาดย่อม
และบริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง
ซึ่งกำหนดให้เป็นแหล่งที่ตั้งอุตสาหกรรมหลัก
ที่ใช้ประโยชน์จากก๊าซธรรมชาติในการผลิต
แต่เนื่องจากประเทศมีข้อจำกัดทางด้านทุน ทรัพยากรบุคคลและเทคโนโลยี
รวมทั้งไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับโครงการพัฒนาขนาดใหญ่เช่นนี้มาก่อน
จึงทำให้รัฐบาลไทยต้องขอความช่วยเหลือจากภาครัฐบาลญี่ปุ่น
และเชิญชวนให้ภาคเอกชนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในโครงการดังกล่าว
ผลจากการศึกษาสรุปได้ดังนี้
1. ภาครัฐบาลญี่ปุ่น
ได้แสดงบทบาทอย่างสำคัญในการให้ความช่วยเหลือในรูปของความร่วมมือทางวิชาการ
โดยผ่านองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น หรือไจก้า (JICA)
เพื่อการจัดทำแผนแม่บทและการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการต่าง ๆ
ในแผนพัฒนาชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก
กับการให้ความช่วยเหลือในรูปของเงินกู้
โดยผ่านองค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจภาคโพ้นทะเลหรือโออีซีเอฟ (OECF)
ซึ่งมีสัดส่วนของเงินกู้สูงถึงร้อยละ 60
ของเงินลงทุนทั้งหมด
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างโครงสร้างขั้นพื้นฐานต่าง ๆ
ของโครงการ
2.
ภาคเอกชนญี่ปุ่น
ในระยะแรกของโครงการภาคเอกชนญี่ปุ่นได้เข้ามามีบทบาทในฐานะบริษัทวิศวกรที่ปรึกษา
และเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง
เมื่อโครงสร้างขั้นพื้นฐานของโครงการได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
ได้มีสถิติแสดงให้เห็นว่า
ภาคเอกชนญี่ปุ่นได้เข้ามาลงทุนในพื้นที่ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกเพิ่มขึ้น
ดังสถิติในช่วงปี 2537-2539
เฉพาะในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง
โดยมีมูลค่ารวมกันมากกว่าร้อยละ 60
ของมูลค่าการลงทุนของภาคเอกชนญี่ปุ่นทั้งหมด
จึงกล่าวได้ว่าพื้นที่ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก
ได้กลายเป็นฐานการลงทุนอีกแห่งของญี่ปุ่นในประเทศไทย
สำหรับพื้นที่เป้าหมายบริเวณแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี
สาขาที่ภาคเอกชนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนประกอบการมากได้แก่
สาขาผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องกล และรถยนต์
และสาขาเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิคส์
ส่วนพื้นที่เป้าหมายบริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง ได้แก่ สาขาเคมี
กระดาษ และพลาสติก
บทคัดย่อภาษาอังกฤษ
The purpose of this research was to study the Japanese
role, both public and private sector, in the Eastern Seaboard
Development Programme.
The Eastern Seaboard is located in the southeast of
Bangkok, a subregion of Thailand that consists of Chachoengsao,
Chonburi and Rayong. Thai Government recognizer the importance of
the Eastern Seaboard and has formulated three highest priorities to
which the development should contribute. They are decentralizing
growth away from Bangkok and its outskirts, laying the foundations
for industrialization by introducing heavy industries based on
natural gas, and dispersing growth of this area in order to improve
the living standard of the underprivileged, particularly in the
Northeast. In the first stage of development, two areas are
targeted : Laem Chabang, lying to the south of Chonburi, will be the
main focus for small-medium scale and pollution-free industries
served by its own deep-sea port; Map Ta Phut, on the west of Rayong,
will be the centre for the gas-related and heavy industrial complex.
The programme involes the government in providing infrastructures
and public utilities and getting heavy industries off the ground
first, which will further stimulate other downstream industries.
That it is the first integrated industrial development programme
which requires more funds to invest has led Thai government to ask
Japan for economic assistance for the programme.
The results of the
research were as follows. Firstly, the Japanese government has
played an important role to provide assistance through its two
agencies. Japan International Cooperation Agency (JICA) has
provided more ten packages of such technical assistance master plan
study, feasibility studies for the different projects under the
programme. The Overseas Economic Cooperation Fund of Japan (OECF)
has financed more twenty projects under the programme, which
approximately was 60 per cent of the investment required. Secondly,
Japanese private sector played as contractors and consulting firms
in some projects under the programme. When the construction has
been completed, a number of Japanese investment projects, approved
by the Board of Investment of Thailand, increased rapidly in the
Eastern Seaboard. During 1994-1996, Chachoengsao, Chonburi and
Rayong accounted for more than 60 per cent of the total value of
Japanese approved projects. The major industrial activities are
metal products, machinery, automotive, electrical and electronics in
Laem Chabang Area, and petrochemical in Map Ta Phut Area. It can
even be said that these industries centres have become other
Japanese-based investment areas besides Bangkok and its outskirts.
|