ปีงบประมาณ
2532
ชื่อโครงการวิจัย
การสร้างเด็กโดยผ่านขบวนการศึกษาต่างวัฒนธรรม
ผู้ทำวิจัย
รศ.วรินทร
วูวงศ์
จำนวนหน้า
80
หน้า
โดยทุนมูลนิธิญี่ปุ่น ประจำปี ค.ศ.
1989
บทคัดย่อภาษาไทย
ปัจจุบันประเทศไทย
กำลังพัฒนาทั้งทางด้านสังคม เศรษฐกิจ
และการเมือง
เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคโลกาภิวัฒน์
ตัวแปรหนึ่งที่จะเป็นตัวกำหนดการเปลี่ยนแปลงนี้คือ
การพัฒนาคุณภาพของคนซึ่งผู้วิจัยมองว่า
ในประเทศไทยนั้น
การพัฒนาคุณภาพของคนยังมีปัญหาอยู่มาก
และเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประเทศ
ผู้วิจัยเชื่อว่า
การพัฒนาคนให้มีคุณภาพนั้นอยู่ที่วิธีการให้การศึกษาเป็นหลัก
และวิธีการให้การศึกษานี้ต้องได้รับการปลูกฝังที่ดีตั้งแต่วัยเด็ก
ด้วยเหตุผลนี้ผู้วิจัยจึงให้ความสำคัญต่อการสร้างเด็กในระดับประถมศึกษาเป็นอย่างมาก
โดยศึกษาจากขบวนการให้การศึกษาในระดับประถมของญี่ปุ่นเป็นหลัก
เนื่องจากเมื่อกล่าวถึงคนที่มีคุณภาพแล้ว
หลายคนจะนึกถึงคนญี่ปุ่นซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
ซึ่งญี่ปุ่นให้ความสำคัญและลงทุนตรงส่วนนี้มาก
จุดมุ่งหมายของการวิจัยครั้งนี้เพื่อศึกษาเคล็ดลับ
การสร้างเด็กแบบญี่ปุ่นว่ามีวิธีการอย่างไร
โดยดูจาก หลักสูตร
การใช้ชีวิตในโรงเรียนของเด็ก
และวิธีการสอน
นอกจากนี้ยังได้ศึกษาถึงผลดีและผลเสียของวิธีการดังกล่าว
เพื่อนำมาเป็นบทเรียนหรือแบบอย่างในการเสนอวิธีให้การศึกษาต่อเด็กไทยอย่างเป็นรูปธรรม
จากผลของการวิจัยครั้งนี้
ทำให้ทราบว่า
ญี่ปุ่นมีขบวนการหล่อหลอมเด็กอย่างเป็นรูปธรรม
ต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
ภายใต้ขบวนการดังกล่าว
ผู้วิจัยได้ค้นพบว่า
ญี่ปุ่นได้ใช้วิธีการบางอย่างเพื่อช่วยขบวนการหล่อหลอมนี้ให้มีประสิทธิภาพ
ซึ่งผู้วิจัยมองว่า
วิธีการดังกล่าวนี้ได้กลายเป็นวัฒนธรรมของญี่ปุ่นไปแล้ว
และวัฒนธรรมที่กล่าวนี้คือ
1.
วัฒนธรรมรวมกลุ่ม
2.
วัฒนธรรมเป้าหมาย
3.
วัฒนธรรมวิจารณ์ตนเอง
4.
วัฒนธรรมปฏิบัตินิยม
5.
วัฒนธรรมการอ่าน
แม้ว่าจะมี
ข้อเสียอยู่ในบางวัฒนธรรมที่ผู้วิจัยได้ทำการสรุปไว้ก็ตาม
แม้กล่าวโดยภาพรวมแล้ว
ผู้วิจัยเห็นว่าวิธีการให้การศึกษาแบบญี่ปุ่นนั้นมีความเป็นรูปธรรมมาก
และไม่ยากจนเกินไปในการนำมาประยุกต์หรือปฏิบัติ
ซึ่งจะส่งผลดีต่อการสร้างเด็กไทยให้คุณภาพต่อไป |